13/11/2013

ก่อนจะออกไปทำงานวันนี้ ผมแวะเข้ามานั่งเขียนอะไรดีๆในบล็อกของตัวเองเบาๆ ระหว่างมื้ออาหารเที่ยงผมนั่งคิดว่าทำไมทุกวันนี้หลายแบรนด์สนใจเทรนด์สตรีทแฟชั่นมากขึ้น ตั้งแต่ดีไซน์เนอร์ระดับโลกไปจนถึงไทยดีไซน์เนอร์ ที่มีคอลเลกชั่นสตรีท ที่ใส่ง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ราคาและคุณภาพก็ยังถูกปรับให้สูงขึ้นตามค่าครองชีพของสังคมยุคใหม่

ส่วนตัวผมคิดว่าแฟชั่นที่เป็นสตรีท ใส่ง่าย ดูชิคและใส่ได้บ่อย เอาไปแมชกับอะไรก็ได้ ลูกค้ามักรู้สึกว่ามันคุ้มค่า ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป แต่ก็ยังมีสไตล์อะไรที่บ่งบอกความเป็นตัวเองได้ดีอยู่ หลังจากทุกแบรนด์หันมาดีไซน์คอลเลกชั่นให้เป็นสตรีทมากขึ้น เทรนด์การนำเสนอแนวทางการแต่งตัวในอินสตาแกรมก็เติบโตขึ้นเช่นกัน บางคนลงทุนซื้อเพราะอยากเอามาถ่ายโชว์ในโลกออนไลน์ ว่านี่ไง "เรามีชิ้นนี้ก่อนใคร" หรือไม่ก็สามารถใส่อะไรเก๋ๆที่คนอื่นยังไม่ฮิตกัน เป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่น สร้างยอดกดไลท์มากมายที่ต้องตื่นมาเช็คกันทุกเช้า วิถีชีวิตคนเราเป็นอย่างนี้จริงๆ ผมเองก็เป็น เพียงแต่ผมไม่ได้นำเสนอการแต่งตัวของตัวเองเท่าไหร่ แต่นำเสนอสิ่งที่พบเห็นผ่านสายตาและความรู้สึกในช่วงนั้น นานๆจะได้ลงภาพถ่ายตัวเอง

ในขณะที่หลายคนยังชอบสไตล์การแต่งตัวที่หรูหรา เนี๊ยบตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า ผมว่าเราก็ยังสามารถดึงเอาบางชิ้นของงานสตรีทมาลดทอนความน่าเกรงขามของลุคได้เป็นอย่างดี จะมีใครอยากใส่สูททุกวัน เนี๊ยบจนนึกว่าหลุดออกมาจากนิตยสารหรือไม่ก็เป็นหุ่นโชว์เสื้อผ้าในร้านเทเลอร์เมด มนุษย์ยังอยากสัมผัสอะไรที่ตัวเองเข้าถึงได้(และเข้าถึงไม่ได้ไปพร้อมๆกันเสมอ) ผมว่าปรากฏการณ์ของสตรีทแฟชั่นมาเติบโตอย่างก้าวกระโดดผ่านยุคดิจิตอล ทุกอย่างมาเร็วเคลมเร็ว อะไรฮิตก็ใส่กันทั้งเมือง อะไรเอาท์ก็ขายไม่ได้ อะไรที่คนอื่นมีก็จะต้องมี มันสนุกดีและเป็นสิ่งที่แฟชั่นต้องมี แต่ก็ต้องไม่ลืมนึกว่าสไตล์ไหนคือตัวตนของเราจริงๆ ยังมีลุคให้คนจดจำและนึกถึง อยากจะให้คนมองหมวกแก๊ปหรือมองหน้าเรา อยากจะได้คนมองลายปักที่อยู่บนเสื้อหรือมองกล้ามแขนเป็นมัดๆของเรา มีแต่เราเท่านั้นที่จะเป็นผู้นำเสนอสิ่งเหล่านี้เอง...