ถ้าใครไปญี่ปุ่นหรือมีเพื่อนเป็นคนญี่ปุ่นมักจะเห็นหนุ่มๆญี่ปุ่นใช้กระเป๋า Porter แบรนด์กระเป๋าเก่าแก่ที่มีอายุถึง 80 ปี กลายเป็นแบรนด์กระเป๋าสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น จนถึงนักธุรกิจ ทุกคนมักจะมีกระเป๋า Porter สำหรับใช้งาน โดยเฉพาะในยุคแห่งสตรีทแฟชั่นที่ต้องการความคล่องตัว ทำให้กระเป๋า Porter ยิ่งได้รับความนิยม จากแฟชั่นนิสต้ารุ่นใหม่ๆ ด้วยคุณภาพการตัดเย็บ วัสดุที่ใช้ การออกแบบที่ดีไซน์ขึ้นมาเพื่อตอบสนองการใช้งานจริง จึงทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จและเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน
ถ้าจะให้เล่าตำนานอันเก่าแก่ของกระเป๋าแบรนด์นี้ ย้อนกลับไปที่ปี 1935 ที่บริษัท Yoshida ต้องการผลิตกระเป๋าที่มีคุณภาพสูง high quality "Japan Made"และผลิตด้วยฝีมือของช่างญี่ปุ่นขนานแท้ทุกใบ โดยคำว่า Porter มาจาก พนักงานที่ถือกระเป๋าในโรงแรม แน่นอนว่าเมื่อผลิตในญี่ปุ่น ราคาของกระเป๋าจึงมีราคาค่อนข้างสูง ใบในภาพที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยที่ Emporium อยู่ที่ราคาใบละ 12,000 บาท ส่วนราคาหน้าเวปอยู่ที่ 24,500 JPY plus tax
ใบในภาพเป็น PORTER / TANKER 2WAY TOTE BAG เป็นรุ่นคลาสสิกที่ขายดีตลอดการของแบรนด์ ถือกำเนิดขึ้นมาในปี 1983 มาถึงปัจจุบันก็มีอายุ 32 ปี โดยได้แรงบันดาลใจจากวัสดุในการผลิต Jacket MA-1 of the U.S. Air Force โดยผ้าที่ใช้เป็นไนลอน ตรงกลางบุด้วยโพลีเอสเตอร์ และซับในด้วยไนลอนสีส้ม อันเป็นเอกลักษณ์ของกระเป๋า Porter เรียกว่า "rescue orange" ผมมองว่าการซับในสีส้ม นอกจากเพื่อความสวยงามแล้ว ยังช่วยให้เราหาของในกระเป๋าง่ายอีกด้วย
เอกลักษณ์อีกอย่างของแบรนด์คือโลโก้ที่ติดอยู่หน้ากระเป๋า ซึ่งกระเป๋าหลายรุ่นมีการร่วมออกแบบกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อย่าง MARNI , Mastermind
กระเป๋าสามารถสะพายขึ้นไหล่ หรือใช้สายสะพายคาดตัวได้ มีซิปสีเงินอยู่ด้านข้างกระเป๋า ทำให้ขยายกระเป๋าได้ เพิ่มความจุมากขึ้น มีช่องใส่ของด้านหน้ากระเป๋า 2 ช่องใหญ่ ด้านในมีช่องพลาสติกใสอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่เชื่อว่าจะทำให้เรามองเห็นของที่อยู่ในกระเป๋าได้สะดวก มีช่องแบ่งสองช่องใหญ่ในอีกด้าน มีช่องใส่ปากกา และหลังกระเป๋า มีช่องซิปที่ทำให้เราใส่คอมพิวเตอร์หรือไอแพดได้สบายๆอีกหนึ่งช่อง รูปทรงกระเป๋าใบนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากกระเป๋าทหาร จึงถูกผลิตออกมาในซีรีย์ที่ชื่อว่า “travel series with a military look inspired by MA-1” ด้วยความเบา ความทนทาน ใช้งานง่าย และดีไซน์ที่เรียบ ทำให้เป็นรุ่นที่ขายดีและเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน
หลังจากที่ผมได้ลองใช้กระเป๋าใบนี้ต้องบอกเลยว่า "ตกหลุมรักครับ" เพราะว่าใช้งานง่ายมาก เบา เข้ากับเสื้อผ้าง่าย ใครที่มีสไตล์มินิมัลน่าจะชอบกระเป๋าใบนี้ จุของเยอะ แล้วก็ใส่อุปกรณ์เสื้อผ้าไปฟิตเนสได้อย่างพอดี จะถือ หรือสะพายก็สะดวกมากเวลาเดินทางขึ้นรถไฟฟ้า ช่องในกระเป๋ามีครบ ผมชองช่องที่เป็นพลาสติกใสมาก เพราะว่าทำให้เราเห็นของข้างใน เวลาหยิบจะสะดวกสุดๆครับ ส่วนวันลำลองที่ของไม่เยอะ ก็รูดซิปด้านข้างทำให้กระเป๋าเล็กลง อยากจะสะพายขึ้นไหล่ก็สะดวก ส่วนจุดที่เรียกว่าใครที่เพิ่งใช้ครั้งแรกไม่ต้องตกใจ คือ กระดุมแป็กที่ติดด้านในกระเป๋า หรือตัวล็อคสายสะพาย อาจจะมีการถลอกได้ง่าย เพราะแม้แต่ในหน้าเวป แบรนด์ถ่ายสภาพสีที่หลุดลอกของการชุมเคลือบด้วยสีเทามาให้ชม แต่โดยรวมไม่ว่าจะหลุดลอกยังไงก็ยังสวยงามครับ ตอนนี้เลยกลายเป็นกระเป๋าใบโปรดของผมในช่วงใกล้ปีใหม่
ผมได้รับกระเป๋าใบนี้ในวันคริสต์มาสพอดี เป็นความโชคดีที่ลูกค้าญี่ปุ่นแอบมาดูในไอจีผมที่โพสบอกซานต้าว่าอยากได้กระเป๋าใบนี้ แล้วลูกค้าก็เลยสั่งมาให้จากญี่ปุ่นเลย เรียกได้ว่าพอเปิดออกมาผมเซอร์ไพรส์มาก ไม่นึกว่าจะได้กระเป๋าใบนี้จริงๆ จึงเป็นเรื่องราวแห่งความประทับใจประจำปี เลยอยากแชร์ประสบการณ์และเรื่องราวของกระเป๋า Porter หรือที่คนญี่ปุ่นแท้ๆมักจะเรียกว่ากระเป๋า Yoshida กระเป๋าที่เป็นตำนานของญี่ปุ่นแท้ๆ และยังคงได้รับความนิยมอย่างสูงสุดมาจนถึงปัจจุบัน
