จาก Donna Karan สู่ DKNY


เมื่อเราพูดถึงแบรนด์ที่สื่อถึงความเป็นอเมริกัน และมีความทันสมัย คงปฏิเสธที่จะนึกถึงแบรนด์ที่ชื่อว่า DKNY ไม่ได้ แบรนด์ยอดนิยม ที่หลายคนเลือกใช้ และกว่าจะมี DKNY ในวันนี้ ดีไซเนอร์สาวอเมริกัน ที่ได้ชื่อว่า รู้ซึ้งเรื่องความเป็นผู้หญฺิงที่ดีที่สุดคนนีงที่อย่าง Donna Karan (ดอนนา คาราน) เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ วันนี้เราจะมารู้จักเธอให้มากขึ้นครับ

Donna Karan (ดอนนา คาราน) ต้องการที่จะทำเสื้อผ้าเพื่อผู้หญฺิงยุคใหม่ ที่ใส่ได้จริง มีความคล่องตัวในการใส่ไปทำงาน เหมาะกับการใช้ชีวิตอยู่นอกบ้าน สร้างความมั่นใจในบุคลิกภาพของตนเอง ทั้งหมดนี้ล้วนมาจากบุคลิกของเธอ เธอมีชื่อเล่นๆที่เรียกกันว่า Body (บอดี้) ชื่อเดิมว่า ดอนนา ฟาสเก (Donna Faske) เกิดในย่านควีนส์ของนิวยอร์ค ในปี 1949 เรียนออกแบบที่โรงเรียนสอนการออกแบบ พาร์สันส์ (Parsons School of Design) ดอนน่าเป็นพนักงานขายอยู่ถึง 4 ปี จนเธอได้พบกับ มาร์ค คาราน จึงได้ตัดสินใจแต่งงาน และได้ทำงานกับห้องเสื้อ แอนน์ ไคลน์ (Anne Klein) ในระหว่างทำงานก็ได้รับรางวัล "โคตี้ อวอร์ด "จากสมาคมนักข่าวแฟชั่น"


ในปี 1985 ก็เป็นปีที่เธอได้ตั้งแบรนด์ของตัวเอง โดยใช้ชื่อว่า "ดอนนา คาราน นิวยอร์ค "( Donna Karan New York) หรือ DKNY โดยพุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนชั้นกลางค่อนข้างสูง และกลุ่มคนชั้นสูง ที่มีกำลังซื้อ โดยสร้างทฎษฎี ความสะดวกสบาย 7 ชิ้น ( 7 Easy Pieces) เป็นการผสมผสานเครื่องแต่งกายชิ้นต่างๆเข้าด้วยกัน เพื่อเกิดความสะดวกสบายในการใส่ เพียงแค่ปรับแต่งชุดทำงานนิดหน่อย ก็สามารถใส่ไปงานกลางคืนได้เลย โดยไม่ต้องกลับไปเปลี่ยนที่บ้าน ซึ่งวิธีนี้ทำให้ประหยัดเวลา และเหมาะกับสาวยุคใหม่มาก


หลังจากประสบความสำเร็จในด้านเสื้อผ้า ก็มีไลน์สินค้าอย่างเดนิม น้ำหอม แว่นตา เครื่องประดับ ออกมาด้วย จน DKNY กลายเป็นตัวแทนของอเมริกาในลำดับต้นๆ เธอก็วางมือจากการบริหารในตำแหน่ง CEO ในปี 1997 เหลืออยู่เพียงงานดีไซน์ที่เธอยังทำอยู่ ในปี 2001 ก็ได้ขายหุ่นให้กับ LVMH โดยที่เธอยังคงดูแลงานด้านดีไซน์ต่อไป และเธอยังได้รับการจารึกชื่อ บนทางเดินสายที่ 7 ที่คนทั่วไปเรียกกันว่า Fashion Walk of Fame เพื่อเป็นเกียรติแก่ ดอนนา คาราน ตลอดไป


ความสำเร็จของ DKNY ทำให้ผู้คนสนุกกับการแต่งตัวในแบบ มิกซ์แอนแมช สนุกกับสีสัน และการนำของในตู้มาปรับใช้ให้เข้ากัน ให้ความรู้สึกถึงสังคมเมืองที่ยังสนุกกับแฟชั่นในแบบฉบับของเธอเอง......

*Credit
Photos : Google
ข้อมูลบางส่วนจากหนังสือ World's top designer