ตำนานผ้าพันคอ

ในตำนานกล่าวว่า ผ้าพันคอ เกิดขึ้นจากผ้าเช็ดหน้า ที่รู้จักกันในชื่อที่ว่า "Sudarium" เป็นผ้าเช็ดหน้าที่ชายชาวโรมันใช้เช็ดใบหน้า จนได้มีการพัฒนาผ้ากลายเป็นผ้าพันคอ โดยการผูกปมในแบบต่างๆ หรือไม่ก็สวมรอบคอ จากนั้นจึงมีความนิยมเพิ่มขึ้นใส่กลุ่มผู้หญิง แม้แต่ในประเทศจีน ในสมัยของ Shih Huang Ti จักรพรรดิ์ ผ้าพันคอถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ในตำแหน่งของนักรบที่ทำสงคราม จนแพร่หลายสู่โครเอเชีย ซึ่งได้นำทั้งขนสัตว์และผ้าฝ้ายมาทำเป็นผ้าพันคอ ตลอดจนพัฒนาไปสู่การทำผ้าพันคอด้วยไหม ชาวฝรั่งเศสจะเรียกผ้าพันคอว่า "Cravats" จนทุกวันนี้ ผ้าพันคอกลายเป็นไอเท็มที่มีติดตู้เสื้อผ้าไว้ใช้ในทุกฤดู ไม่เพียงแต่ในเฉพาะหน้าหนาวเท่านั้น มีผ้าพันคอที่ทำจากไหม ให้ความรู้สึกหรูหรา ผ้าพันคอชีฟอง ที่พริ้วไหว ผ้าพันคอผ้าฝ้าย ที่ใส่สบาย ทุกวันนี้ผ้าพันคอไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเครื่องให้ความอบอุ่น แต่เป็นเหมือนเครื่องประดับ ที่ช่วยให้ลุคในการแต่งตัวดูมีไสตล์ ไม่ต่างจากเครื่องประดับอื่นๆ เรายังสามารถนำมาผูกด้วยวิธีการต่างๆที่แตกต่างกันไป เพื่อสร้างสไตล์เฉพาะในแบบของตัวเองที่ไม่เหมือนใคร

เมื่อเราพูดถึงผ้าพันคอ อาจจะนึกถึงผ้าพันคอไหมของ Hermes ที่เหล่าคนดัง นิยมใช้ผูกทำเป็นชุดหรือผูกติดประดับกระเป๋าเบอร์กิ้นและเคลลี่ เมื่อนึกถึงศิลปินเกาหลี K Pop ก็ใช้ผ้าพันคอผ้าฝ้ายชายปม เป็นเครื่องประดับในการเต้นและถ่าย MV หรือผ้าพันคอลายหัวกระโหลก ของอเล็กซานเดอร์ แม็คควีน ที่ถูกพาดอยู่บนบ่าของเหล่าแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก ผ้าพันคอถูกแบ่งอยู่เป็นหลายประเภท เช่น ผ้าพันคอถัก ผ้าพันคอไหม ผ้าพันคอพิมพ์ลาย ผ้าพันคอแฮนเมด ผ้าพันคอปักลาย ผ้าพันคอเพ้นท์ลาย ผ้าพันคอร่วมสมัย

สำหรับผ้าพันคอ Martinphu ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม (Handmade Scarves) เป็นผ้าพันคอที่ผู้ผลิตตั้งใจทำขึ้นในแบบที่ตนเองต้องการ ให้มีความแตกต่างไม่ซ้ำใคร ตลอดจนมีระบบทำแบรนด์สินค้า ที่ให้ความรู้สึกลักชัวรี่ มีความยูนีค มีเรื่องราวและคุณค่าในทุกผืน เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า ที่ชอบผลงาน ที่ไม่เหมือนใคร ผลิตจำนวนน้อย ไม่ต่างจากการสะสมศิลปะร่วมสมัย ซึ่งผู้ที่ครอบครองผ้าพันคอแต่ละผืน จะสามารถเข้ามาศึกษาความเป็นมา ของผ้าพันคอแต่ละผืนได้นั่นเอง................

Credit : ข้อมูลบางส่วนจาก beauty.yopi.co.th