แฟชั่น



ได้อ่านข่าวแฟชั่น หลายแบรนประสบปัญหาจนต้องปิดกิจการไป อย่าว่าแต่แบรนระดับโลกเลยครับ แม้แต่ร้านในสยามก็ผลัดกันเปิดและปิดตัวสลับไป ขนาด Y-3 Yoji Yamamoto ยังต้องล้มละลาย คริสเตียนลาครัว ก็ประกาศล้มละลายในคอลเลกชั่นสุดท้าย ทั้งนี้ล้วนแต่มีที่มาที่ไปกันทั้งนั้น การทำธุรกิจระดับบนนั้น ถ้าของไม่ดีจริง จนสมราคาที่ลูกค้าจะจ่าย ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะอยู่รอดครับ การรักษาคุณภาพและแนวของตัวเอง ที่ต้องคงเดิมไว้ ในขณะเดียวกันก็ต้องปรับตามความต้องการของลูกค้าให้ทัน ไม่มีธุรกิจไหนในโลกที่สามารถหยุดนิ่งได้ครับ ทุกแบรนต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องและให้ทันตามความต้องการของผู้บริโภค

แฟชั่นยุค 2009

1.คนหันมาใช้การมิกซ์แอนแมชมากขึ้น กล้าใช้ของมือสองมากขึ้น และผสมผสานระหว่าง Hi end และ Low end มากขึ้น ของLow end ทำสินค้าได้ดูราคาแพงขึ้น ในขณะที่Hi end กลับทำให้ดูราคาถูกลง อย่างนี้ผู้บริโภคจะเลือกอันไหนละครับ

2.การใช้เงินอย่างประหยัดและมีสติมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคต้องคิดก่อนซื้อ เปรียบเทียบกับทุกแบรน ราคาและคุณภาพการใช้งานจึงต้องไปด้วยกัน

3.หมดยุคอะไรที่ ลิมิเต็ดอิดิชั่น ใครๆก็อยากใช้แบบคลาสสิกและใช้ไปนานเท่านาน

4.ดีไซน์เนอร์ต้องคิดงานมากขึ้น ชุดเดียวสามารถแปลงแบบได้ ให้ใส่ทั้งชีวิตประจำวัน ไปงานได้ ปาร์ตี้ได้ มี option ที่มากขึ้น เช่นการเปลี่ยนสีปกเสื้อได้ ช่วยให้ขายได้ง่ายขึ้น

5.ความจริงใจในการบริการ คนซื้อเสื้อผ้าต้องการบรรยากาศและการบริการ อันจะช่วยให้ง่ายต่อการตัดสินใจเหมือนเจรจาธุรกิจ แพ็กเกจจิ้งและเซอร์วิสก้ยังสำคัญอยู่มาก


ภาพประกอบจาก http://bangkokmode.blogspot.com/ บล็อกใหม่ครับ