รีวิวกระเป๋า Distortion ผลงานที่น่าสะสมที่สุดจาก Bao Bao Issey Miyake



แบรนด์ BAO BAO ISSEY MIYAKE (เบา เบา อิซเซ่ มิยาเกะ) ถือเป็นแบรนด์ในเครือ ISSEY MIYAKE ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด ในเรื่องของการผลิตกระเป๋าด้วยวัสดุที่ทันสมัย สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกแฟชั่น ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งโดยดีไซน์เนอร์ชื่อดัง อิซเซ่ มิยาเกะ ในปี 2000 ซึ่งกระเป๋าจะถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้จริง เข้ากับยุคปัจจุบัน ด้วยรูปทรงที่เรียบง่าย แต่สามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลายรูปแบบ ตามความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคน จุดเด่นที่สุดคือ กระเป๋าผลิตจากวัสดุที่เรียกว่าโพลียูรีเทน ที่มีความทนทานและเบา นุ่ม สามารถพับได้

แฟนๆของแบรนด์ที่ติดตามผลงาน อาจจะได้ยินกับคำว่า PARK EDITION เป็นรุ่นกระเป๋า BAO BAO ISSEY MIYAKE เป็นการร่วมมือกับศิลปิน ดีไซน์เนอร์ดัง เพื่อสร้างสรรค์ผลงาน Limited Edition ซึ่งปัจจุบันมีออกมาแล้ว 8 Edition โดยกระเป๋ารุ่น Distortion ที่ผมนำมารีวิวในวันนี้ ถือเป็นการร่วมมือกันในครั้งที่  4 ซึ่งเมืองไทยเป็นประเทศที่สองที่มีโอกาสได้จำหน่ายกระเป๋ารุ่นนี้ในจำนวนจำกัดเพียงแค่ 100 ใบเท่านั้น มีทั้งหมด 4  สี  คือ สีชมพู สีเงิน สีดำ สีขาว โดยสีที่หายากที่สุดเป็นสีชมพู และตามมาด้วยสีเทาเงินซิลเวอร์ ในราคาใบละ  32,900 บาท

 

ภาพข้างบนคือกล่องใส่กระเป๋า ที่จะมาเป็นแผ่นเรียบๆ ข้างในมีอุปกรณ์การประกอบ ซึ่งลูกค้าสามารถนำไปประกอบเองหรือให้ทางร้านประกอบกระเป๋าให้ได้เช่นกัน รับรองว่าไม่ยากครับ ผมมีโอกาสได้ลองจับมาเรียบร้อยแล้ว ทางแบรนด์เล่าว่ากล่องที่เรียบและบาง ยังช่วยในการประหยัดพื้นที่จัดเก็บ ซึ่งถือเป็นดีเทลที่แบรนด์ให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน
 

เมื่อเปิดกล่องออกมาจากเห็นกระเป๋าในลักษณะ 2  มิติบางเรียบ สามารถประกอบกระเป๋าขึ้นมาเป็นรูปทรงที่สวยงาม ลงตัว ส่วนการเปิดปิดกระเป๋าจะมีแม่เหล็กเป็นตัวเชื่อม
 

กระเป๋า Distortion ถือเป็นกระเป๋าแห่งโลกอนาคต เป็นการร่วมงานกันระหว่าง  ISSEY MIYAKE ร่วมกับ N&R FOLDING ซึ่งเป็น Design Studio ที่เบสอยู่ที่โตเกียวและลอนดอน มีความสนใจอย่างยิ่งในเทคนิคของยุคดิจิตอล ผลงานส่วนใหญ่ได้แรงบันดาลใจจากการพับกระดาษแบบ Origami ซึ่งก่อให้เกิดการเชื่อมต่อที่หลากหลาย


ภายในกระเป๋าจุบุด้วยผ้าอย่างดี นุ่มและถนอมสิ่งของที่บรรจุอยู่ภายใน มีช่องซิปสำหรับใส่ของสำคัญ มีขนาดความจุที่กว้างพอที่จะใส่โทรศัพท์ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ แบตสำรอง กระเป๋าเงิน และของใช้จุกจิก เป็นกระเป๋าคลัชที่อยู่ทรง น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย

 

การเปิดปิดกระเป๋าทำได้ง่าย เพราะใช้เทคนิคแม่เหล็กเชื่อมต่อ อยากให้ลองเปิดปิดดูนะครับ หลังจากผมทดลองพบว่าลื่นไหล ไม่แน่นเกินไปจนเปิดยาก หรือพลังดูดน้อยเกินไปจนกระเป๋าเปิดง่าย เป็นดีเทลเล็กๆที่ทำให้เราใช้งานกระเป๋าได้สะดวกมากยิ่งขึ้น


ขอบมุมของกระเป๋าถูกเชื่อมต่อด้วยหมุดยาว เหมือนบานพับ กระเป๋าสามารถเคลื่อนไหวปรับรูปทรงไปตามสิ่งของที่ใส่ได้ แต่รับรองว่าอยู่ทรง สวยเวลาถือ มีขนาดที่จุของ ใช้งานได้จริงสมกับความตั้งใจในการดีไซน์ของแบรนด์


เพื่อให้เห็นภาพถึงขนาดของกระเป๋า ผมเลยมีภาพถ่ายคู่กับกระเป๋า  Distortion มาให้ชมครับ โดยขนาดกระเป๋าจะอยู่ที่  35 cm x 16 cm x 7 cm และขนาดของ PACKAGE จะอยู่ที่ 53cm x 43cm x 3 cm ถ้าถามในมุมมองของผมว่าทำไมถึงต้องมีกระเป๋าใบนี้สะสมอยู่ในตู้เสื้อผ้าของสาวๆ ผมตอบได้เลยว่าเป็นคลัชที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานจริงๆครับ เพราะว่าการถือรับกับมือมาก เบา จุของเยอะ แตกต่างจากคลัชทรงอื่นๆที่ผมเคยจับมา สองเป็นลิมิเต็ทอิดิชั่น ที่มีเพียง 100 ใบ ซึ่งหายากมาก แต่ละสีผลิตจำกัด สาวกของแบรนด์ที่มีกระเป๋าคล้องไหล่แล้วก็คงอยากมีกระเป๋าคลัชไว้ใส่แมชกับจุดพลีตเวลาออกงาน ถือได้ทั้งกลางวันและกลางคืน สาม Distortion ถือเป็นงานออกแบบแห่งยุค ที่เปิดมิติใหม่แห่งโลกแฟชั่นที่ทันสมัย จะมีแบรนด์ไหนในโลกที่สร้างสรรค์ผลงานได้ล้ำอนาคตและใช้งานได้จริงเท่าแบรนด์นี้คงไม่มีอีกแล้ว เรียกว่ามีเก็บไว้เป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของโลกแฟชั่นยุคดิจิตอลเลยก็ว่าได้ครับ


เล่ามายาวขนาดนี้ก็สามารถแวะไปเยี่ยมชมนิทรรศการได้ที่ชั้น 1 สยามพารากอน สามารถซื้อกระเป๋ารุ่นนี้ได้ที่งาน ในราคาใบละ 32,900 บาท  ได้ยินมาว่าไม่มีการรับจอง ท่านใดไปซื้อก่อนก็ได้ก่อน แต่ละสีก็มีจำนวนไม่มาก นำเข้ามา 4 สี เรียกว่ามีสีละยี่สิบกว่าใบเท่านั้นครับ !!!
________________________________

คลิ๊กชมการประกอบกระเป๋าได้ที่นี่ Click