เราคงเคยได้ยินว่า แฟชั่นคือสิ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของเราได้เป็นอย่างไร สำหรับผมแล้ว สิ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของแต่ละคนคือ สไตล์ที่เฉพาะของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า การใช้ชีวิต แนวคิด หนังสือที่อ่าน อาหารที่ทาน หนังที่ชอบดู เพลงที่ฟัง ทุกอย่างผสมผสานกันให้กลายเป็นสไตล์ส่วนตัว แล้วแฟชั่นก็เป็นส่วนนึงที่นำมาใช้ในการนำเสนอความเป็นตัวตนในแบบของเราเอง เพราะตามคำนิยามของแฟชั่นเวลาที่ผมไปสอนในคลาสของนางแบบ แฟชั่นคือสิ่งที่กำลังนิยม เทรนด์ ความล้ำสมัย ที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่สไตล์คือ ความเฉพาะของแต่ละบุคคล ถ้าทุกคนใส่เสื้อผ้าเหมือนกันแบบยูนิฟอร์ม ไม่มีความแตกต่าง ไม่มีอะไรพิเศษ ก็คงไม่มีสิ่งที่เรียกว่าแฟชั่นเกิดขึ้น ถ้าใครได้เรียนวิชาแฟชั่นจะมีภาพหนึ่งที่เรียกว่า The following "เป็นภาพวาดของผู้หญิงสองคนที่ใส่ชุดเหมือนกัน ผู้หญิงคนแรกมีความสวยงามทั้งรูปร่างหน้าตาและชุดที่เลือกมาใส่ จนผู้หญิงในอีกภาพที่มีรูปร่างเจ้าเนื้อก็อยากใส่ตามและแต่งกายแบบเดียวกันแบบภาพแรก"
ภาพนี้สะท้อนให้เห็นว่าแท้จริงแล้วแฟชั่นจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีทั้งผู้นำและผู้ตาม เราล้วนแล้วได้รับอิทธิพลจากกันและกันโดยไม่รู้ตัว กางเกงทรงไหนที่เค้ากำลังใส่กัน รองเท้าแบบไหนที่กำลังมา แบรนด์ไหนที่เราชอบ เราชอบสิ่งเหล่านั้นโดยการซึมซับมาล้วนๆ และสิ่งที่เราได้สร้างสรรค์ขึ้นเป็นสไตล์ส่วนตัว ก็อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคนได้หยิบเอาดีเทลที่เค้าชอบไปใส่ตามเช่นกัน ทำไมแบรนด์นี้คนรวยๆถึงใช้กัน ไม่ใช่เพียงแค่ราคาสูง แต่เพราะกลุ่มคนเหล่านี้มีอิทธิพลซึ่งกันและกัน เหมือนกับแชมพูสระผมและผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมบางแบรนด์ ที่มีเพียงแต่มืออาชีพเท่านั้นที่ใช้กันในเฉพาะกลุ่ม เพราะได้รับอิทธิพลจากความเชื่อมั่นในวงการการทำงานเช่นกัน
คำพูดที่ผมได้ยินมาเสมอคือ "ไม่ได้ตามแฟชั่น แต่ตามใจตัวเอง" หากพิจารณาดีๆอาจจะพบว่าทุกคนล้วนติดตามแฟชั่นโดยที่ไม่รู้ตัว ทั้งจากละครที่ชมในช่วงหัวค่ำ หรือผู้คนที่เดินผ่านไปมาในร้านกาแฟ เราซึบซับสิ่งเหล่านั้นมาแบบไม่รู้ตัว และแฟชั่นก็เป็นส่วนนึงของชีวิตเรา ที่เราต้องอยู่กับมันไม่ว่าเราจะรู้หรือตัวหรือไม่ก็ตาม...