"เมรัน" ครูสอนการแสดงเจมส์ จิ และ Acting Coach ให้กับนางแบบรุ่นใหม่ของเมืองไทย (Exclusive Interview !!!)



เมื่อพูดถึงครูสอนการแสดงรุ่นใหม่ที่กำลังมาแรงที่สุด ชื่อของ "เมรัน ศรัณย์ธรณ์ ระสินานนท์" ย่อมอยู่แถวหน้าของเมืองไทย แน่นอนว่าดาราซุปตาร์อย่าง เจมส์ จิรายุ , อาเล็ก ธีรเดช ก็เคยผ่านมือเธอมาแล้วทั้งนั้น แม้แต่ จุ๊บแจง นางแบบไทยที่ไปโกอินเตอร์ถึง New York Fashion Week ก็เป็นหนึ่งในนักเรียนที่เคยเรียนการแสดงกับครูเมรันมาก่อน วันนี้เราจะมารู้จักกับตัวตนของเธอมากขึ้น

Martinphu : เข้าสู่แวดวงของการแสดงได้อย่างไร ?
คุณเมรัน : เมเริ่มสนใจการแสดงตอนเรียนมหาวิทยาลัย เลือกเรียนคณะการแสดงที่ มศว.และต่อปริญาโท ทางด้านการแสดงที่จุฬา อยู่กับวงการละครเวทีมาก่อนจะมีรัชดาลัยเธียเตอร์ มีโอกาสได้ทำละครเวที เล่นละครทีวี ละครซิทคอม และภาพยนต์ รับสอนติวน้องๆที่จะเข้าเรียนคณะการแสดง และมีโอกาสได้ร่วมงานกับช่อง 3   ทั้งชีวิตเลยทุ่มเทให้กับการแสดงและการสอนการแสดง

Martinphu : อะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการเป็นนักแสดง
คุณเมรัน : กำแพงที่ตัวคุณคิดว่าจะไม่ทำ ถ้าเรามีกำแพง ก็ยากที่จะเข้าถึงการแสดง นักแสดงที่ดีจึงต้องทำลายกำแพงของตัวเอง เพื่อที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ


Martinphu : อะไรคือเทคนิคของการแสดงที่ครูเมรันจะต้องสอน ?
คุณเมรัน : "ความเชื่อ ! " นักแสดงที่ดีต้องมีความเชื่อก่อนเป็นอันดับแรก ต้องเชื่อมั่นในตัวเอง และเชื่อมั่นในตัวละคร ต้องเข้าใจตัวละครให้ดี แล้วทุกอย่างจะออกมาจากภายใน เราต้องเชื่อว่าเราเป็นตัวละครนั้นจริงๆ แล้วคนอื่นก็จะเชื่อเรา ส่วนเทคนิคว่าจะแสดงออกทางอารมณ์มากน้อยขนาดไหนเป็นเรื่องของดีเทล เพราะละครเวที ละครทีวี และภาพยนต์ มีเทคนิคที่แตกต่างกัน อยู่ที่ว่าเราจะใช้วิธีไหน แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องมีความเชื่อในตัวละครก่อนเป็นอันดับแรก

Martinphu : ดาราเรียนการแสดงเป็นเรื่องปกติ แล้วทำไมนางแบบถึงต้องเรียนการแสดง ?
คุณเมรัน : นางแบบนอกจากรูปร่างหน้าตาสวยแล้ว ถ้ารู้จักวิธีการแสดงอารมณ์ที่ดี ก็ช่วยในเรื่องของการทำงาน ทั้งการเดินแบบ การถ่ายภาพนิ่ง การโพส ทุกอย่างจะมาจากอินเนอร์ที่อยู่ข้างใน ที่สำคัญจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการทำงาน ทำให้มีความเป็นมืออาชีพ และมีโอกาสแคสงานได้มากกว่าคนอื่น

Martinphu : มีเรื่องราวอะไรที่ประทับใจในการพัฒนานางแบบให้ก้าวไปสู่เวทีโลก
คุณเมรัน : โชคดีที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับ Fever Runway ได้สอนการแสดงให้กับน้องจุ๊บแจง นอกจากสอนการแสดง เมจะสอนวิธีคิด ว่าทุกคนมีโอกาสเท่ากัน และที่นี่เป็นที่แห่งโอกาส อยู่ที่ตัวเราว่าจะเดินเข้าไปหาโอกาสหรือไม่ น้องจุ๊บแจงเดินเอาพอร์ตไปยื่นและเดินเข้าหาโอกาส ทำให้เอเจนซี่ที่เมืองนอกสนใจ จนได้เดินแบบที่ New York Fashion Week ตอนที่น้องประสบความสำเร็จก็ส่งภาพและข้อความกลับมาในอินสตาแกรม เห็นแล้วภูมิใจและดีใจกับความสำเร็จของน้องที่เดินมาถึงจุดนี้ 

Martinphu  : มีโอกาสได้สอน เจมส์ จิรายุ กับอาเล็ก ธีรเดช ตัวจริงเป็นอย่างไร สอนยากมั้ย ?
คุณเมรัน : "เจมส์ จิ " เป็นเด็กที่น่ารัก เปิดกว้างและพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่สำคัญคือเป็นคนที่มีสมาธิเวลาที่จะแสดง เป็นคนที่ฟังคำแนะนำและนำมาพัฒนาต่อ ได้เจอเจมส์จิตั้งแต่ก่อนที่ละครเค้าจะดัง ถือเป็นเป็นนักแสดงที่มีความสามารถมากคนนึง ส่วน " อาเล็ก "  เป็นคนที่ขยันทำการบ้านมาก และไม่เคยท้อต่ออุปสรรค เวลาบอกว่าตรงนี้ยังไม่ได้ยังไม่ใช่ อเล็กซ์ก็จะกลับมาพัฒนาแล้วจะทำให้ได้ เป็นคนที่มีความอดทนในการทำงานมาก


Martinphu  : ในกระเป๋าทำงานของครูสอนการแสดงมือหนึ่งมีอะไรบ้าง
คุณเมรัน : จะมีกระเป๋าใบใหญ่ ซึ่งเมเป็นคนที่ชอบกระเป๋าใบใหญ่และต้องทำจากหนัง เพราะชอบเทกเจอร์ของหนัง ใบที่ใช้วันนี้เป็นของแบรนด์ COACH เพราะว่าสีสวย จุของได้เยอะ เรียบๆแต่มีดีเทล มีกระเป๋าสตางค์ของ Balenciaga ใบนี้เพิ่งได้มาเพราะเห็นในอินสตาแกรม ตอนนั้นป่วยอยู่โรงพยาบาลแต่อยากได้มาก เลยให้น้องชายวิ่งไปซื้อให้ที่ร้าน กระเป๋าแบ่งใส่ของใบเล็กก็เป็นหนัง แคสโทรศัพท์ก็ต้องเป็นหนัง มีแว่นตาวินเทจที่ใส่ประจำและสมุดจดคิวงานและบันทึกเรื่องราวต่างๆ

Martinphu  : แบรนด์ไหนเป็นแบรนด์แฟชั่นในดวงใจ
คุณเมรัน :  ถ้าเป็นกระเป๋า เมชอบ Balenciaga เพราะว่าดีไซน์สวย ใช้งานได้ทุกวัน และเป็นแบรนด์ที่ไม่ได้เน้นโลโก้ แต่ทุกคนจะรู้ทันทีว่านี่คือ Balenciaga ถ้าเป็นเสื้อผ้าเมชอบงานออกแบบของ Comme des Garcons และ Vivienne Westwood คือชอบทั้งสองแบรนด์ที่สามารถทำเสื้อผ้ายากๆที่ไม่เหมือนใคร ให้สามารถใส่ได้จริง เก๋ มีสไตล์ของตัวเองที่ชัดเจน ชอบมานานมาก


Martinphu  : อะไรคือแรงผลักดันของชีวิต ?
คุณเมรัน : นอกจากตัวเอง เมคิดว่าครอบครัว เพราะเป็นพี่คนโต ที่ต้องทำงานส่งน้องชายเรียนมาตั้งแต่เด็ก ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ต้องขยันทำงาน อดทน มีความมุ่งมั่นมาก และชีวิตก็ผ่านอะไรมาเยอะ  บางครั้ง "น้ำตามันสอนอะไรได้มากกว่าเสียงหัวเราะ" ทุกอย่างในชีวิตมีคุณค่าและหล่อหลอมให้เราเป็นเราในทุกวันนี้


Martinphu  : รู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วรึยัง ?
คุณเมรัน :  คิดว่าเดินทางมาไกลกว่าที่คิดแล้ว แต่ก็ต้องพัฒนาต่อไป ยังมีอะไรหลายอยากที่ยังอยากทำและยังมีเป้าหมายของชีวิตที่ให้เดินทางต่อ ถึงแม้จะมีบทบาทของการเป็นครูด้วย แต่ก็ยังชอบการหาความรู้อะไรใหม่ๆให้กับตัวเอง มีเวลาก็อยากจะเรียนศาสตร์ต่างๆเพิ่มขึ้น เพื่อนำมาปรับใช้กับการทำงาน วันนึงในอนาคตอาจจะมีโรงเรียนสอนการแสดงเล็กๆของตัวเอง 

คุณเมรัน ศรัณย์ธรณ์ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของคนที่ตั้งใจและมุ่งมั่นในการทำงาน Martinphu.com ใช้เวลาในการสัมภาษณ์ครั้งนี้นานกว่า 3 ชั่วโมง ชีวิตของเธอคนนี้มีอะไรที่น่าสนใจ มีหลายมุมของชีวิตที่เชื่อว่าน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คน จนต้องบอกให้คุณเมรันเขียนพ๊อกเก็ตบุ๊คสักเล่มเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตและประสบการณ์ เธอเคยร่วมงานกับละครมากมาย ตั้งแต่ บ้านนี้มีรัก , หนึ่งมิตรชิดใกล้ , ทัดดาวบุษยา , ผมไม่อยากเป็นสายลับ , สะไภ้พญายม , ภาพยนต์คุณนายโฮ และผลงานละครเวทีอีกมากมาย ทุกวันนี้คุณเมรันยังทำหน้าที่เป็นครูสอนการแสดงให้กับนักแสดงและนางแบบรุ่นใหม่ ยังรับงานละคร และงานติวการแสดงให้กับนักเรียนที่อยากจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ถ้าใครมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณเมรันจริงๆจะพบว่า "ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร" มันคงเป็นประโยคที่ยังใช้ได้เสมอ สำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้........