18/4/2012

ในระหว่างพักทำงานกลางดึก คุณแม่กำลังจัดของ แล้วหยิบเซรามิกรูปหิน ใส่ดอกไม้ มีเขียนคำว่า Happiness มาวางไว้ พร้อมกับเล่าว่าผลงานชิ้นนี้มาจากโรงงานผลิตของลูกชายน้าเล็ก ผมนั่งมองดูแล้วรู้สึกว่ามันมีความสุขจริงๆ หยุดทุกอย่างและวางลงมานั่งเขียนบทความนี้ ผมเองก็ทำงานในส่วนการผลิต ทุกครั้งที่งานเสร็จ ผมก็จะมานั่งดูด้วยความภูมิใจ ก่อนที่ผลงานจะเดินทางไปที่ไหนสักที่นึงบนโลก คงเหมือนกับตัวอักษรที่เราเขียนทุกวัน แป้นพิมพ์ก็มีตัวอักษรเดิมๆ แต่เราสามารถมีเรื่องราวและแรงบันดาลใจมาเล่าได้ทุกวันไม่เคยเบื่อ

มีครั้งนึงผมได้รับข้อความผ่านแบล็คเบอร์รี่ว่า คุณจ๊อบใช้ของแบรนด์เนมเยอะมั้ย ผมนั่งนิ่งไปสักพัก....... จะตอบข้อความกลับไปยังไงดี บางวันก็เรียกว่าแบรนด์ตั้งแต่ตัวจรดปลายเท้า ทั้งข้างในข้างนอก บางวันก็สบายๆมีทั้งแบรนด์ใหญ่และแบรนด์เล็ก เราเห็นแบรนด์ทุกวันจนเรารู้สึกเหมือนทุกอย่างเป็นเพื่อนที่อยู่ข้างกันมาโดยตลอด ผมเห็น Alexander Wang ตั้งแต่ยังไม่มีใครรู้จัก จนวันนี้ผมก็ใส่ไปทำงาน ผมมีเสื้อ DKNY ที่อยู่กับผมมาเป็น 10 ปี แล้วก็ยังชอบใส่อยู่ ทั้งเนื้อผ้าและแบบ หาซื้อที่ไหนไม่ได้แล้ว ผมไปงานกลางคืนแล้วติดด้วง Olivia Diamonds สีม่วงตัวที่ผมชอบเสมอ ผมใช้กระเป๋า PLEATE PLEASE ในการเก็บสมุดบันทึกตารางงาน สะพาย Gucci ลุยขึ้นเหนือล่องใต้ ผมจ่ายเงินด้วยกระเป๋าตังค์ Prada ใบเก่าที่ใช้มานานแสนนาน และเข็มขัด Ferragamo ที่ไปงานกับผมมาแล้วทุกงาน ผมพันผ้าพันคอ Martinphu เวลาที่อากาศหนาว ผมเลือกใส่รองเท้า Tod's ในวันที่มั่นใจว่าฝนไม่ตก ipad ที่ผมนั่งเช็คงานทุกวันก็ได้รับมาจากนายแม่ที่มอบให้ หลายครั้งเราอยู่กับสิ่งเหล่านี้เพราะรู้สึกผูกพันธ์ เราโตมาด้วยกัน เราทั้งสุขและทุกข์มาด้วยกัน จึงไม่แปลกเลยที่ในบล็อกผมจะเต็มไปด้วยทุกแบรนด์ที่แสนอบอุ่น ไม่รู้กี่บทความที่เราได้มีโอกาสถ่ายทอดเรื่องราวของแต่ละแบรนด์ผ่านตัวอักษรในแบบของเรา บอกให้รู้ว่า ของทุกชิ้นล้วนมีเจ้าของ อะไรที่เป็นของเรา ยังไงก็เป็นของเราวันยังค่ำ แม้แต่ความรักก็เช่นกัน.........