ในโซนของผู้ชาย Paul smith มีชื่อเสียงมากในเรื่องของเสื้อเชิ้ต สูท และสไตล์การออกแบบที่ให้ความรู้สึกตามแบบฉบับของอังกฤษ ที่มีลูกเล่นและดีเทลต่างๆซ่อนอยู่
ผ้าพันคอ Paul Smith ลายพิมพ์ 9,500 บาท
โซนนี้จะเป็นในส่วน Main Line ของ Paul Smith เราจะได้พบกับเสื้อผ้ารันเวย์ลุคเหมือนที่เหล่านายแบบได้เดินแฟชั่นโชว์ในแต่ละซีซั่น
สูทที่มีชื่อเสียงของ Paul Smith เป็นสูทในสไตล์อังกฤษ ที่มีวิธีการตัดเย็บแบบพิเศษให้เมื่อใส่แล้วจะรู้สึกพอดีตัว แต่มีความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว ถือเป็นไอเท็มเด็ดที่ผมอยากแนะนำ เนื้อผ้าคุณภาพดี และการไลน์นิ่งภายในเสื้อสูทที่งดงาม เป็นงานฝีมือที่ละเอียด เต็มไปด้วยดีเทล ถ้าใครต้องการสูทดีๆ ที่ไม่เหมือนใคร ผมอยากจะแนะนำสูทของ Paul Smith รับรองว่าไม่ผิดหวังครับ
แบรนด์ Paul Smith จะแบ่งไลน์สินค้าออกแบบทั้งหมด 4 ไลน์ คือ
1. Paul Smith ที่เป็น Main Line เป็นลุคของเสื้อผ้าที่เราเห็นในรันเวย์ อันเป็นไลน์หลักของแบรนด์
2. Paul Smith London ที่จะเน้นการดีไซน์เสื้อผ้าในสไตล์ Business Look
3. PS Paul Smith ที่จะให้ความรู้สึกของเสื้อผ้าในแบบ Smart Casual
4. Paul Smith Jeans ที่จะให้ความรู้สึก Casual ลำลองใส่ได้ง่ายในทุกวัน
นี่เป็นตัวอย่างของป้ายโลโก้ในไลน์ Paul Smith Jeans
ความงดงามภายในเสื้อสูท กับการเก็บรายละเอียดและดีเทลของ Paul Smith ที่ทั้งด้านนอกและด้านในของสูท มีความประณีต ราคา 30,500 บาท
อย่างสูท The Abbey จะเป็นสูทที่เข้ารูปกำลังพอดี ใส่สบาย ช่วยให้รูปร่างของผู้สวมใส่ดูมีบุคคลิกภาพที่ดี
การตัดเย็บที่ละเอียดและเต็มไปด้วยลูกเล่นที่น่าสนใจ อย่างสูท The Kensington จะเป็นสูทของ Paul Smith ที่ใส่แล้วเข้ารูปมากขึ้น ราคา 46,900 บาท
ไม่เพียงแค่เสื้อผ้าเท่านั้น Paul Smith ก็ยังได้ออกแบบเครื่องครัวชั้นนำอย่าง Stelton ที่ฉลองครบรอบ 50 ปี ซึ่งเป็นการผสมผสานความลงตัวระหว่างความคลาสสิคและลูกเล่น ในโทนสีต่างๆเพื่อให้ความเรียบง่ายดูโดดเด่นขึ้น ภาชนะฝาสีส้ม ราคา 2,900 บาท , กาน้ำราคา 19,500 บาท
นี่เป็นคอลเลคชั่นพิเศษที่เพิ่งเดินทางมาถึงประเทศไทย ใครที่อยากมีเครื่องครัวเก๋ๆ ก็ต้องไม่พลาดครับ Martinphu.com รีบนำความพิเศษมามอบให้กับทุกท่านเป็นที่แรกเสมอ
เข็มขัดชิ้นเด่นจาก Paul Smith โดยเฉพาะสีสันและรายละเอียดเล็กๆที่ซ่อนอยู่
Paul Smith ก็ยังมีส่วนน้ำหอมหลายรุ่นที่น่าสนใจ ถ้าลองดูจากกล่องจะเห็นลายซิกเนเจอร์ของแบรนด์สองแบบ แบบเส้นโค้งจะเป็นของผู้หญิง และแบบเส้นตรงจะเป็นของผู้ชาย
สำหรับรองเท้าที่ผมเลือกนำมาใช้ชม คู่นี้เป็นรองเท้า Travel ของ Paul Smith ที่เหมาะสำหรับใส่เดินทาง ภายนอกจากดูเป็นลุคทางการที่ใส่กับกางเกงและเสื้อเชิ้ตได้เข้ากันเป็นอย่างดี แต่พื้นรองเท้าจะทำด้วยยาง ทำให้เวลาเดินมีความรู้สึกสบา กระจายน้ำหนักได้ดี
ถ้าอยากรู้ว่าคู่ไหนเป็นรองเท้า Travel ก็ต้องดูสัญลักษณ์เล็กๆที่ซ่อนอยู่ครับ เป็นเหมือนรูปคนกำลังวิ่ง นี่คือดีเทลเล็กๆที่น่ารัก ที่ทำให้ทุกคนหลงรัก Paul Smith 
รองเท้าคู่นี้เป็นรองเท้าที่ผ่านกระบวนการผลิตแบบพิเศษ เป็นรองเท้า Dip Dry ที่จะนำรองเท้าทั้งคู่ใส่เตาอบเพื่อฟอกหนังให้มีความนุ่มเป็นพิเศษ ถือเป็นที่สุดของรองเท้า Paul Smith
เพราะหนังจะนุ่มมากตั้งแต่ครั้งแรกที่ใส่ ว่ากันว่าเราเท้าที่ใส่เข้าไปในตู้อบ ถ้าใส่ไป 10 คู่ อาจจะมีเพียง 2 คู่ ที่ผ่านคุณสมบัติตามเกณฑ์ของ
Paul Smith เพื่อให้ได้ความพิเศษที่สุด นี่คือความใส่ในใจกระบวนการผลิต คู่นี้ราคา 23,900 บาท
รองเท้า Dip Dry ของ Paul Smith จึงมีดีเทลที่แตกต่างกันหลังจากนำออกมาจากตู้อบ ในกระบวนการผลิตที่พิเศษ เพื่อให้หนังของรองเท้านุ่มและใส่สบาย
นี่เป็นถุงเท้า ที่กำลังได้รับความนิยม ทั้งสีและลายอันเป็นเอกลักษณ์ของ Paul Smith
กระเป๋า Billfold Paul Smith ราคา 9,900 บาท , Card Holder Paul Smith ราคา 5,500 บาท
Card Holder Paul Smith ราคา 5,500 บาท
Money Clip Paul Smith ราคา 2,900 บาท_____________________
Paul Smith @Emporium
โทร.02 -664 8846
