วันนึงขณะที่เพิ่งออกจากฟิตเนส ขึ้นรถไฟฟ้า ซึ่งคนเยอะมาก ผมก็หยิบบีบีขึ้นมาเล่นทวิตเตอร์ตามเคย แต่พอเงยหน้าขึ้น ผมเห็นผู้ชายใส่แว่นคนนึง ผูกผ้าพันคอผืนนึงสีเทา เข้ากับเสื้อยืดเรียบๆสีเทา กำลังพิมพ์อะไรสักอย่างบนไอโฟน และผมจำได้ดีกว่านั้นคือผ้าพันคอ Truly แน่นอน...................จึงรีบกดโทรศัพท์โทรหาเจ้าของผ้าพันคอผืนนั้น เราสองคนอยู่ขบวนเดียวกันในวันที่คนบนรถไฟฟ้าเยอะมาก จนลงจากรถไฟฟ้าผมได้มีเวลาคุยกับเจ้าของผ้าพันคอผืนนี้ จำได้ว่าหิวมาก จนต้องทานข้าวไข่เจียวกับผัดผักบุ้ง คุยไปทานไปเลยทีเดียว
เราคุยกันเยอะมาก ตั้งแต่เรื่องแฟชั่น แนะนำการเลือกกระเป๋า ธรรมะ กิจกรรมค่าย งาน จนมาคุยกันถึงเรื่องผ้าพันคอ ผมจำไม่ได้ว่าเริ่มต้นยังไงแต่รู้ว่า เรากำลังพูดถึงคนที่สะสมผ้าพันคอของ Martinphu ตั้งแต่ผืนแรกด้วยความสุข แต่ผมจำได้ว่าผู้ที่สะสมท่านนี้ขาดต่างหูสีชมพูของเราไปคู่นึง ทำให้ของไม่ครบคอลเลกชั่น แต่ผมกลับได้การแชร์อะไรดีๆกลับมาแทน ซึ่งผมขออนุญาตไปเอามาจาก Facebook ของลูกค้าท่านนี้นะครับ
เราคุยกันเยอะมาก ตั้งแต่เรื่องแฟชั่น แนะนำการเลือกกระเป๋า ธรรมะ กิจกรรมค่าย งาน จนมาคุยกันถึงเรื่องผ้าพันคอ ผมจำไม่ได้ว่าเริ่มต้นยังไงแต่รู้ว่า เรากำลังพูดถึงคนที่สะสมผ้าพันคอของ Martinphu ตั้งแต่ผืนแรกด้วยความสุข แต่ผมจำได้ว่าผู้ที่สะสมท่านนี้ขาดต่างหูสีชมพูของเราไปคู่นึง ทำให้ของไม่ครบคอลเลกชั่น แต่ผมกลับได้การแชร์อะไรดีๆกลับมาแทน ซึ่งผมขออนุญาตไปเอามาจาก Facebook ของลูกค้าท่านนี้นะครับ
พอได้ฟังแล้วยิ้มและรู้สึกอิ่มมาก ในความไม่สมบูรณ์แบบมันก็มีเสน่ห์ของเค้าอยู่เสมอ เพราะว่าทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่เราไม่ได้กำหนด มันค่อยๆใหลไปเองตามสิ่งที่มันควรจะเป็น.............และสิ่งที่เซอร์ไพร์มาก คือ ผมกำลังตามหาคนคนนึง..............นั่นคือ "น้าเล็ก" ที่เคยเป็นโฮสผมสมัยเข้าค่ายเรือ อะไรจะบังเอิญที่เจ้าของผ้าพันคอผืนนี้ ถือเป็นเรือรุ่นใหญ่ก่อนรุ่นผม และทำให้ผมได้ทราบว่าตัวเองเป็นเรือรุ่นเล็ก รุ่น 5 ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้าย เวลาผ่านมาเป็นสิบปีแล้วครับ ผมจะตามหาน้าเล็กเจอมั้ย ยังไงก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ ...........ทุกอย่างในโลกเหมือนถูกกำหนดมาแล้ว ว่าจะมีอะไรเข้ามาในชีวิต สิ่งที่เราทำได้เพียงแต่ทำปัจจุบันนี้ให้ดีที่สุด และมีความสุขอยู่กับปัจจุบัน ขอบคุณการพบกันบนรถไฟฟ้าโดยบังเอิญในครั้งนี้ครับ