ในบรรดานิตยสารแฟชั่นทั่วโลก แต่ละเล่มก็จะมีสไตล์ที่แตกต่างกันออกไป หนึ่งในนิยสารที่เป็นเหมือนหนังสือรวบรวมประวัติศาสตร์แฟชั่นคือบาซาร์นี่เอง Haper's Bazar (สะกดแบบสมัยก่อน).................ได้รูปแบบการสะกดตามหนังสือ Der Bazar ของเบอร์ลิน หลังสงคราวกลางเมืองไม่นานครับ Bazar ไม่ใช่ตลาดสดอย่างที่เข้าใจกันเลย แต่เป็นสถานที่โอ่งโถงไว้ขายพวกข้าวของมีค่า น้ำหอม เครื่องเทศ เหมือนอยู่ในขุมทรัพย์ จึงมีความหมายที่ว่า ขุมทรัพย์แห่งแฟชั่น ความรื่นร่ม สาระความรู้ ด้วยราคาเพียง 10 เซนต์ในสมัยก่อนครับ
สมัยนั้นนิตยสารก็มีน้อยมาก 140 ปีก่อนโน้นครับ นิตยสารแฟชั่นก็คล้ายๆกับหนังสือสอนมารยาท ที่จะบอกว่าควรใส่อะไรที่ไหนอย่างไร จนในปี 1901 ก็ได้มีการวางแผนในแบบรายเดือน เพิ่มควาโก้เก๋ให้กับนิตยสาร นำเสนอเสื้อผ้าที่หรูหรา มีการเพิ่มบทความเขียน เกี่ยวกับความเป็นปัจเจกในการแต่งตัว ต่อมาเริ่มมีการถ่ายภาพ รวมเรื่องราวของโฮโซในสมัยนั้นๆ เมื่อก่อนยังไม่มีภาพถ่าย จะเป็นการพิมพ์ลายเส้น ผ่านแผ่นไม้ครับ ซึ่งพอจะสามารถหาดูรูปได้เช่นกันจนในยุคที่พอมีเทคนิคด้านกราฟฟิค คนออกแบบก็มองว่าหน้ากระดาษก็เหมือนกับผ้าใบ เค้าจึงมีการจัดหน้ากระดาษแบบใหม่ครับ โดยแบ่งออกเป็นสามส่วน คือ ภาพ เนื้อเรื่อง ที่ว่าง โดยภาพจะมีความสำคัญเท่ากับเนื้อเรื่อง พร้อมกับตัวอักษรแบบเฉพาะของตัวเอง มันเลยเป็นยุคที่มีการจัดวางหน้านิตยสารให้น่าสนใจ ไม่ใช่มีแต่ตัวหนังสือกับรูปภาพเหมือนตำราโบราณครับ
จนมาถึงยุค 90 แฟชั่นเป็นอะไรที่ไม่แน่นอน เอาไม่อยู่ บาซาร์มีการปรับสไตล์ให้ดูมินิมัลลิส (คือเรียบง่ายแต่มีดีเทล ) เพิ่มขึ้น ฉะนั้นเราไม่ต้องแปลกใจที่จะเห็นชุดยาวอลังการกับเครื่องเพชรตู้มๆในบาซาร์ พร้อมกับชุดเรียบๆแต่มีเทสอยู่ในเล่มเดียวกันครับ นอกจากงานภาพถ่ายที่สวยงาม หรูหราอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว เนื้อเรื่องของแฟชั่นยังเข้มข้น ชัดเจน มีที่มาที่ไปมากพอสมควร เพราะว่าเค้าเน้นตลาดระดับบน ในบรรดานิตยสารแฟชั่นทั่วโลกที่ผมเคยอ่าน ผมเองชอบบาซาร์ของไทยเรานี่ละครับ มีมา 5 ปีละครับ ถึงแม้ว่ารูปในเล่มกับอะไรหลายอย่างเหมือนเอาของฝรั่งมาแปลตามลิขสิทธิ์ แต่มันคือขุมทรัพย์ทางแฟชั่นในแบบไทยๆอีกเล่มที่น่าสะสม ผมซื้อทุกเล่มแต่ไม่ได้เก็บทุกเล่มครับ ไม่งั้นคงเต็มบ้านจะตัดในส่วนที่ชอบเก็บไว้ และบางเล่มเท่านั้นที่จะครบสมบูรณ์ หวังว่าคงสสนุกกับเรื่องราวที่นำเสนอนะครับ ยังไงลองแวะไปหาอ่านได้ครับ ตอนนี้ชื่อเป็น Barzaar มีเอสองตัวแล้ว ต่างจากสมัยก่อนครับ ^ ^
