กระเป๋าคลาสสิก 12 ใบของ Louis vuitton

มองซิเออร์หลุยส์ วิตตอง คือ ผู้นำการบุกเบิกเครื่องหนัง ได้เปิดกิจการในปีพ.ศ.2379 โด่งดังจากหีบเดินทาง จนมาในปี 2540 ก็ได้มาร์ค จาคอบ มาเข้าร่วมทำงานเป็นอาร์ทไดเร็กเตอร์ ปัจจุบันเราจึงเห็นกระเป๋าหลุยส์ที่มาความเปรี้ยวแล้วทันสมัยมากขึ้นตามยุค แต่ก็ยังมีความคลาสสิกและรุ่นยอดนิยม โดยทางหลุยส์ วิตตองได้จักกระเป๋า 11 รุ่น ซึ่งจัดว่าเป็น Icon ของกระเป๋าที่มีชื่อเสียงของหลุยส์ วิตตองครับ


1.รุ่น Wardrobe รุ่นนี้ก็คือ หีบเดินทางนี่เองครับ ผลิตในปีพ.ศ.2418 ซึ่งรุ่นหีบนี้จะมีราคาสูง เหมาะสำหรับการเดินทางของชนชั้นสูงในสมัยก่อนครับ ที่เดินทางโดยเรือเป็นส่วนใหญ่ มีเหตุการณ์ครั้งนึงครับ ที่ปรากฏว่าเรือจม ทำให้หีบเดินทางเสียหาย ยกเว้นหีบของหลุยส์ครับ ที่รักษาข้าวของข้างในไว้ได้อย่างดีเยี่ยม แม้แต่หีบที่เก็บหมวกราคาแพงก็ไม่จมไม่พัง ทำให้เจ้าของเรือมีหมวกสวยๆใส่ไปงานครับ หีบของหลุยส์จึงเป็นที่นิยมจนถึงปัจจุบัน ราคาสูงมาก และมักจะนำมาประดับบ้านเพื่อแสดงฐานะของตนเอง

2.รุ่น Steamer bag ถือเป็นรุ่นที่พัฒนามาจากหีบให้ใช้งานง่ายสะดวก เบาขึ้น และเปิดหยิบของใช้ได้ง่ายครับ รุ่นนี้ผมเองยังเคยเห็นและมีโอกาสได้ลองถือที่ LV store emporium ครับ โดยเค้าเล่าว่าเป็นรุ่นที่เราใช้จัดเก็บเสื้อผ้าและข้าวของ ที่ใช้บ่อยในการเดินทาง เพราะว่าเบาและเปิดสะดวกกว่าหีบ จึงสามารถถือไปไหนมาไหนได้ง่ายกว่าครับ
3.รุ่น Keepall รุ่นนี้ก็เหมือนกับกระเป๋าเดินทาง ที่เราเห็นตามสนามบินนี่ละครับ ถือเป็นการพัฒนาต่อเนื่อง เพราะมาในยุคที่คนโดยสารเครื่องบิน น้ำหนักของกระเป๋าจริงมีความอ่อนนุ่มและสามารถหิวได้ง่ายขึ้นครับคีพ ออล สามารถใส่เสื้อผ้าได้หลายชุด พร้อมกับข้าวของเครื่องใช้ ผมเองมีรุ่นนี้อยู่ เดินทางไปไหนมาไหนกับผมหลายที่แล้วครับ ถือว่าเป็นรุ่นที่ยอดนิยมมากครับ หลายคนเอาไว้ใส่เสื้อผ้าไปยิมหรือไปค้างต่างจังหวัด และมีหลายขนาดให้เลือกเช่นกันครับ


5.รุ่น Speedy ครับ มันคือรุ่นที่ปรับขนาดของ Keepall ให้เล็กลง ให้คุณผู้หญิงถือได้สะดวกมากขึ้นครับ ซึ่งสปีดี้นี่ละครับคือกระเป๋าที่ออกแบบให้กับ ออร์เดย์ เฮปเปิน ด้วยรูปทรงที่ใช้ได้ในทุกโอกาส และเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบันครับ สปีดี้หรือทรงหมอนอิง ที่เราคงพบเห็นกันบ่อยตามท้องถนน นี่เองครับ เนื่องจากเรียบง่ายและใช้ได้ทุกโอกาส จึงเป็นที่นิยมอยู่ครับ


6.รุ่น Noe เป็นกระเป๋าที่พัฒนามาจากกระเป๋าที่ใส่ขวดเชมเปญ จึงมีหูรูดครับ ทำให้กับนักดื่ม จนพัฒนามาเป็นกระเป๋าสตรีในที่สุด


7. รุ่น Lockit เป็นกระเป๋าที่ตั้งได้มีรูปทรงชัดเจน และมีตัวล็อคอยู่ทางด้านข้าง ผมเองก็ชอบรุ่นนี้นะคับ คนถือน้อยหน่อยครับ




8.รุ่น Alma รุ่นนี้ผมชอบมากครับ เพราะว่าเป็นกระเป๋าที่มีทรง ตั้งได้ ชัดเจนมาก คล้ายๆกับโบลิดของ Hermes ครับอัลม่าถูกพัฒนาให้เป็นกระเป๋าถือที่จุของได้เยอะขึ้นครับ ใช้ได้ทุกโอกาส ผมเคยเห็นรุ่นนี้ทำเป็น Voyard ก็สวยดีครับ เหมาะกับการเดินทาง




9.รุ่น Bucket รุ่นนี้จะพัฒนามาจากตระกร้าที่คนรวยใช้เก็บข้าวโอ้ตครับ จนเป็นที่นิยมใอเมริกาและญี่ปุ่น มักใช้เวลาใส่กิโมโน
10.รุ่น Papilon เป็นกระเป๋าทรงกระบอกที่วางในแนวนอน และมีหูสองข้างครับ เป็นกระเป๋าใบโปรดของนางแบบชื่อ ทวิกกี้ในช่วง 60 ครับ



10.รุ่นAmazone เป็นกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยม สะพายข้าง ที่ทำให้กับนักผจญภัยไปใช้ในบราซิลและสามามารถใส่กล้องถ่ายรูปได้ในสมัยนั้นครับ


11.รุ่น Porte Documents Voyage เป็นกระเป๋าใส่เอกสารครับ แต่ความจริงมันพัฒนามาจากที่เก็บเบาะรองนั่งรถยนต์ในสมัยก่อน ซึ่งใบนี้เราก็ยังเห็นคนใช้กันเยอะอยู่ครับ ในการใส่เอกสารดำเนินธุรกิจ เป็นมาตรฐานของกระเป๋าในแนวนี้ของหลายแบรนครับ



ส่วนใบที่ 12 อันนี้ผมเลือกเองเลยครับ นั่นคือ Neverfull กระเป๋าใบใหญ่ มีสายยาว สะพายไหล่ได้ครับ ถึงแม้ว่ารุ่นนี้จะเพิ่งผลิตมาไม่กี่ปีนี่เอง แต่ก็ได้รับความนิยมมากครับ สามารถปรับขนาดด้านข้างได้




ถึงแม้กาลเวลาจะผ่านไปแต่คุณภาพและความมีชื่อเสียงของหลุยส์ วิตตอง กลับเพิ่งขึ้น เพราะว่าเป็นแบรนที่ไม่เคยลดราคาสินค้าเลย อันเป้นที่ทราบกันดีว่า คุณค่าของแบรนจะเพิ่มขึ้นในทุกปี เหมาะแก่การครอบครองและสะสม เป็นสมบัติล้ำค่าของผู้มีรสนิยม......

รวบรวมจากที่ผมทวิตไปในคืนวันที่ 14 ก.ค. 2553